ระบบตรวจจับสิ่งแวดล้อม (Environment Monitoring System – EMS) เริ่มมีบทบาทในห้อง Server และ Data Center โดยจะช่วยเฝ้าระวังการทำงานของระบบต่างๆ ภายในห้อง Server , Data Center เช่น ระบบไฟฟ้า, ระบบสำรองไฟฟ้า (UPS), ระบบตรวจจับน้ำรั่วซึม, ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ, ระบบ Access Control, ระบบตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector), ระบบเครื่องปรับอากาศ, เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ และ ความชื้น โดยระบบที่ติดตั้งในห้อง Server, ห้อง Data Center จะส่งสัญญาณแจ้งเตือน มายังระบบตรวจจับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้กำหนดการทำงานโดยการส่ง SMS หรือ Email หรือ โทรศัพท์ ไปยังผู้ควบคุมที่กำหนดไว้
ในระบบ EMS โดยทั่วไปมักจะต่อเข้ากับระบบต่างๆ ผ่าน Digital Input และ ความสามารถของ EMS จะสามารถทำการสั่งระบบ Digital Output เพื่อไปยังให้ระบบทำงานได้ แต่ EMS บางระบบสามารถแสดงผลเป็น Graphic Interface และสามารถวัดค่าต่างๆ ได้ผ่านระบบ Sensor หรือ ผ่าน Protocol เช่น SNMP เป็นต้น ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าเป็น Advance Function โดยสามารถแสดงผลออกเป็นค่าต่างๆ ที่ตรวจพบได้โดยระบบที่ติดตั้งและส่งค่ามายัง EMS เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขการทำงานหรือไม่
ประโยชน์ของการใช้ระบบ EMS
- สามารถทราบสถานะความผิดปกติที่ตรวจพบโดยอุปกรณ์หลัก ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถจัดการปัญหาก่อนที่ปัญหาจะลุกลามเกินกว่าจะแก้ไขได้
- สามารถใช้เป็น Console ในห้องควบคุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจตราเฝ้าระวัง
- สามารถแสดงผลเป็นรูป Graphic ได้เพื่อง่ายต่อการแสดงผลในการตรวจสอบความผิดปกติ
- สามารถต่อเข้าระบบอุปกรณ์ชั้นสูงได้ (Advance Communication Protocol)
ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบ EMS
- ระบบควบคุมการสั่งการ (Controller)
- Digital Input
- Relay Input
- Digital output
- Relay output
- SMS Module
- Interface RJ45 Module
- Monitoring Software




